รวบเพิ่ม สามีเจ๊ ปุ้ย หลังพบหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หาคนไปหลอกประชาชน

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พ.ต.ต.จอมพฤทธิ์ แก้วเรือง สว.กก.6 บก.ป. พร้อมด้วย ร.ต.ท.วุฒิพงษ์ สุพรรณชนะบุรี, ร.ต.ท.ภูธร ทองทวี รอง สว.กก.6 บก.ป. และเจ้าพนักงานตำรวจ ชป.6 กก.6 บก.ป.

ร่วมกันจับกุม นายแสนดี ฯ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 3797/2567 ลง 15 ส.ค. 2567 ในความผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์โดยแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงาน การเอาคนลงเป็นทาสหรือมีลักษณะคล้ายทาส และการอื่นใดที่คล้ายคลึงกันอันเป็นการขูดรีดบุคคลไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และผู้สมคบคนหนึ่งคนใดได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกัน ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปหรือโดยสมาชิกองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์เพื่อแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับ ใช้แรงงานหรือบริการ การเอาคนลงเป็นทาสหรือมีลักษณะคล้ายทาส และการอื่นใดที่คล้ายคลึงกันอันเป็นการขูดรีดบุคคลไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม , ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขื่นใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้นไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น , ร่วมกันใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้ายใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด พาหรือส่งคนออกไปนอกราชอาณาจักร”

สถานที่จับกุม ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ พฤติการณ์ สืบเนื่องจากต้นปี 2565 นายโจ้ (นามสมมติ) ได้ถูกชักชวนให้ไปทำงานที่บ่อนคาสิโนของประเทศเพื่อนบ้าน แต่เมื่อไปถึงแล้ว พบว่าตนได้ถูกบังคับให้เป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงเหยื่อผ่านแอพพลิเคชันหาคู่ แล้วหลอกลวงให้ลงทุน โดยมีชาวต่างชาติเป็นหัวหน้าคอยควบคุมสั่งการ ในระหว่างที่ทำงานนั้นไร้ซึ่งอิสรภาพและถูกบังคับให้ทำงาน โดยมีคนไทยและคนเวียดนามอีกหลายคน หากใครไม่สามารถทำงานได้ตามเป้าหมาย ก็จะถูกให้อดอาหาร ไปจนถึงทำร้ายร่างกาย ตนได้ขอกลับบ้าน แต่ นายปอ หนวดงาม ซึ่งเป็นหัวหน้าคุมพนักงานคอลเซ็นเตอร์ชาวไทย ได้บอกว่า หากต้องการกลับบ้านต้องจ่ายเงินแลกกับอิสรภาพ ตนจึงให้ทางบ้านหาเงินมาจ่ายให้ จนสามารถกลับประเทศไทยได้

ต่อมานายโจ้ ได้เข้าให้ข้อมูลกับเจ้าพนักงานตำรวจ พร้อมยืนยันตัวบุคคล โดยระบุว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้มีการแบ่งหน้าที่กันหลอกลวงเป็นขบวนการ เริ่มจากการฝึกสอนการหลอกลวง จากชาวต่างชาติผ่านล่ามแปลชาวไทย ฝ่ายไอทีในการทำระบบหลอกลวง และฝ่ายที่คอยควบคุมดูแลพนักงานคอลเซ็นเตอร์ ทั้งนี้เป็นที่น่าตกใจว่า มีพนักงานคอลเซ็นเตอร์ชาวไทยส่วนหนึ่ง ที่สมัครใจทำงาน โดยแสดงความดีใจให้เห็นเมื่อหลอกลวงเหยื่อได้ และได้รับผลประโยชน์จากการหลอกลวงนั้น โดยทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับผิดชอบคดีนี้ และได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง

โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้ติดตามจับกุม น.ส.วันวิสาข์ ฯที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ หนึ่งในเครือข่ายของนายปอ หนวดงาม จากการสืบสวนขยายผลได้ทราบว่า ขบวนการนี้มี น.ส.บุญญิสา หรือ เจ๊ปุ้ย ฯเป็นหัวหน้าที่อยู่เหนือกว่านายปอ หนวดงามอีกชั้นหนึ่ง เป็นผู้บริหารระดับสูงในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ถือเป็นผู้ร้ายรายสำคัญที่เจ้าพนักงานของรัฐต้องการตัว กก.6 บก.ป. จึงได้สืบสวนก่อนจับกุมไว้ได้ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร นำตัวส่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ทางคดีได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายแสนดีหรือเสี่ยก้อง ฯสามีของ น.ส.บุญญิสาหรือเจ๊ปุ้ย เป็นผู้บริหารระดับสูงในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเช่นกัน และยังคงทำงานหลอกลวงคนไทยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้ขอศาลอนุมัติหมายจับนายแสนดี และ ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้สืบสวนทราบ นายแสนดี ได้เดินทางกลับมาบ้านตามภูมิลำเนาที่ กรุงเทพมหานคร จึงได้เข้าตรวจสอบ จนสามารถติดตามจับกุมได้ นำส่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การเบื้องต้น ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การอ้างว่า ตนเป็นเหยื่อเช่นเดียวกับบุคคลอื่น ๆ โดยถูกนายปอ หนวดงาม หลอกไปทำงานหลอกลวงคนไทย ในขณะที่ทำงานก็ถูกจำกัดเสรีภาพ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากการสืบสวนพบว่า นายแสนดี ผู้ต้องหารายนี้ เป็นหัวหน้า ระดับสั่งการของนายปอ หนวดงาม อย่างไรก็ตามจะเร่งสืบสวน และขยายผลจับกุมทั้งขบวนการต่อไป เตือนภัย ตำรวจสวบสวนกลางเตือนภัยพี่น้องประชาชน ในการไปทำงานต่างประเทศ ให้ศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วน เพราะอาจจะถูกหลอกลวง บังคับให้ทำงานเป็นพนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นำมาซึ่งการถูกกักขัง บังคับขู่เข็ญ ไร้ซึ่งอิสรภาพ ต้องจำยอมทำตามคำสั่งในการหลอกลวงประชาชน ตกเป็นผู้เกี่ยวกับข้องกับการกระทำความผิด อันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ หากท่านต้องการความช่วยเหลือ หรือประสงค์แจ้งข้อมูล สามารถติดต่อมาที่ตำรวจสอบสวนกลางเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน