วันที่ 22 ส.ค 67ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. นายสายชล แสนคำ อายุ 34 ปี ผู้เสียหาย ชาว จ.ปทุมธานี นายพงษ์พันธ์ แจ่มดอน น้าชาย เดินทางเข้าพบ พงส.บก.ป.แจ้งความเอาผิดวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่งที่อ้างว่าเป็นศูนย์ของวิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน จ.ขอนแก่น ที่ศูนย์ รังสิต จ.ปทุมธานี หลังเข้าเรียนหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงพุทธศักราช 2557 ประเภทวิชา อุตสาหกรรม สาขาวิชาเทคนิคเครื่องกลสาขางาน เทคนิคยานยนต์เมื่อปี 2560 จบปี 2562 และได้รับใบประกาศนียบัตรการจบการศึกษาเมื่อวันที่ 30 มี.ค.67 ก่อนนำประกาศนียบัตรและระเบียนแสดงผลการเรียน ไปสมัครสอบและได้รับบรรจุเข้าทำงานกรมการขนส่ง ตำแหน่งนายช่างตรวจสภาพรถ แต่เมื่อกรมการขนส่งฯ นำวุฒิการศึกษาไปตรวจสอบประวัติกลับไม่มีชื่อตนว่าจบการศึกษา
นายสายชล เปิดเผยว่า ตนได้สมัครเรียน ปวส. กับวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านรังสิต (วิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน ศูนย์รังสิต) และเมื่อลงทะเบียนเสร็จก็มีการจ่ายค่าเทอมบวกกิจกรรมประมาณ 5 หมื่นกว่าบาท และได้มีการเข้าไปนั่งเรียนปกติเป็นระยะเวลา 2 ปี เมื่อเรียนจบก็มีพิธีประกาศนียบัตรที่เมืองทองธานี หลังจากนั้นก็ได้ไปสมัครงานตามปกติ กระทั่งสอบข้าราชการในตำแหน่งนายช่างตรวจสภาพรถ ที่กรมการขนส่งทางบกได้ ทางหน่วยงานจึงมีการนำวุฒิไปตรวจสอบ แต่กลับพบว่าตนไม่มีรายชื่อในสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทางหน่วยงานจึงให้ตนทวงถามทางวิทยาลัย
เมื่อตนสอบถามอาจารย์ที่สอนตน อาจารย์แจ้งว่าทางวิทยาลัยทำรายชื่อตนตกหล่นตอนส่งรายชื่อเข้าสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ตนจึงเดินทางไปทางศูนย์ใหญ่ของวิทยาลัยที่จ.ขอนแก่น แต่กลับไม่พบผอ. ในรอบแรก เมื่อตนกลับมาจึงเขียนคำร้องไปที่วิทยาลัย แต่ผ่านไป 3 สัปดาห์ ก็ไม่มีการตอบกลับมา ตนจึงเดินทางไปศูนย์ใหญ่ของวิทยาลัยที่ จ.ขอนแก่น อีกสองครั้ง ซึ่งในครั้งที่สามถึงได้พบเข้ากับผอ.ศูนย์วิทยาลัย และได้พูดคุยกัน ซึ่งทางผอ. ศูนย์วิทยาลัยได้แจ้งกับตนว่า ทางศูนย์ใหญ่ของวิทยาลัยที่จ.ขอนแก่น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นเกี่ยวกับวุฒิปลอมที่วิทยาลัยย่านรังสิต แต่ถ้าหากอยากดำเนินการต้องไปที่วิทยาลัยย่านรังสิต ตนจึงเดินทางกลับมาที่วิทยาลัยย่านรังสิต แต่ทางวิทยาลัยย่านรังสิตก็ปัดความรับผิดชอบไปที่อาจารย์ที่สอนตน โดยตนมีเพื่อนร่วมรุ่นทั้งหมด 30 คน ทั้งหมดไม่มีปัญหาเรื่องวุฒิเนื่องจากทั้งหมดยกเว้นตนทำงานกับหน่วยงานเอกชน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้มีสื่อได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบวิทยาลัยย่านรังสิต และสอบถามกับชาวบ้านในระแวกนั้น ชาวบ้านบอกว่าไม่รู้จักสถาบันการเรียนนี้ สามารถยืนยันได้หรือไม่ว่าสถาบันนี้มีอยู่จริง นายสายชล กล่าวว่า ยืนยันว่ามีอยู่จริง และตนได้มีการไปเรียนจริงในทุกวันอาทิตย์ตลอดเวลา 2 ปี และตนจบมาตั้งแต่ปี 62 จึงไม่ทราบว่าผู้ที่ตอบสื่อได้มีการมาพักอาศัยอยู่ในละแวกนั้นตั้งแต่เมื่อไร แต่สถาบันดังกล่าวเป็นตัวอาคารอยู่ในสถานตรวจสภาพรถเอกชน
นายสายชล กล่าวต่อว่า ตนได้แจ้งความไว้แล้วในพื้นที่จ.ขอนแก่น แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแนะนำให้ไปแจ้งที่สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เมื่อตนเข้าแจ้งความทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ดังกล่าวได้แจ้งกับตนว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครรับรองว่าเป็นวุฒิปลอม จึงยังไม่สามารถรับเรื่องได้ ในวันนี้ตนจึงเดินทางมาที่บช.ก.เพื่อจะดำเนินคดี เอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะตนได้รับความเสียหายมากในด้านการงาน ต้องไร้งานและเดือดร้อน ขณะนี้ทางหน่วยงานของตนได้ให้ตนออกจากงานแล้วเพราะขาดคุณสมบัติ เบื้องต้นวันนี้ตนได้นำพยานหลักฐานทั้งหมดที่มีให้พนักงานสอบสวนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน รับเอกสารหลักฐานทั้งหมดไปโดยการตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ความถูกต้องและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน
