เมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์ท้องถิ่นเวียดนามได้รายงานเรื่องราวของ นางดาว สาวรายหนึ่งเป็นชาวบ้านจากจังหวัดจ่าวิญ ประเทศเวียดนาม หญิงผู้โชคดีถูกลอตเตอรี่ 9.2 หมื่นล้านดอง (132 ล้านบาท) เมื่อปี 2016 และอัปเดตชีวิตของเธอหลังผ่านไป 8 ปี
โดยนางดาวและสามีมีอาชีพขายหมู เธอออกไปขายหมูที่ตลาดทุกวัน และยังกลับมาช่วยพ่อแม่ขายปอเปี๊ยะ ซึ่งสลากใบที่ถูกรางวัล ลูกชายวัย 4 ขวบเป็นคนหยิบให้ โดยไม่ได้คาดคิดว่าจะถูกรางวัลใหญ่ คนรู้จักต่างเล่าว่า เธอเป็นคนอ่อนโยนมาก มักจะยิ้มแย้ม นิสัยดีกับเพื่อนบ้าน ตอนที่ได้ยินข่าวว่าเธอถูกลอตเตอรี่ 9.2 หมื่นล้านดอง ก็มีคนมากมายไปแสดงความยินดีกับเธอ แต่ก็มาเยอะมากจนต้องปิดบ้านหนี
นางดาว เล่าว่า เดือนแรกหลังถูกรางวัล เธอต้องซ่อนตัวอยู่ที่บ้านญาติ ไม่กล้าเปิดโทรศัพท์ เพราะมีนักข่าวจำนวนมากมาตามหาเธอ และมีขอทานจำนวนมากอยู่รอบๆ บ้านของเธอ
ฉันได้รับจดหมายนับไม่ถ้วนจากทั่วทุกแห่ง บ่นเรื่องความทุกข์ทรมานและหนี้สิน พวกเขาคาดหวังให้ฉันส่งเงินใช้หนี้ให้ แต่ไม่รู้ว่าใครส่งมา ตลอดทั้งเดือนฉันกินไม่ได้ นอนไม่หลับ สับสนและหวาดกลัว
หลังจากได้รับรางวัลและชำระภาษีและค่าธรรมเนียมแล้ว ครอบครัวของเธอได้ทำโครงการการกุศลเพื่อช่วยเหลือคนที่ยากลำบาก ความสงบสุขกลับคืนสู่ครอบครัวเมื่อเข้าสู่เดือนที่สอง ทุกคนสงบสติอารมณ์และรู้ว่าต้องทำอะไรต่อไป เธอชำระหนี้ทั้งหมด จากนั้นใช้เงินเกือบ 2 พันล้านดองเพื่อการกุศล (2.8 ล้านบาท) โดยแบ่งเงินที่เธอมีให้กับพ่อแม่ พี่น้อง และญาติๆ
พ่อของเธอสร้างบ้านใหม่ด้วยเงินกว่า 3 พันล้านดอง (4.3 ล้านบาท) จากนั้นจึงซื้อที่ดิน สร้างบ้านเช่าเป็นแถว และมีรายได้มากกว่า 30 ล้านเวียดนามดองต่อเดือน (43,000 บาท) แม้จะมีเงินมากมาย แต่พ่อแม่ของเธอยังคงมีนิสัยประหยัดมัธยัสถ์ เมื่อลูกหลานชวนพ่อแม่ไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ พวกเขาแค่หัวเราะแล้วบอกว่า ตัวแก่แล้ว แค่เดินเล่นในเมืองเพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรงก็พอ
ในส่วนของเธอ นางดาวซื้อบ้านหลังใหม่เพื่ออยู่อาศัย และซื้อที่ดินชานเมืองเก็บไว้ นอกจากนี้เธอยังซื้อบ้านอีกหลังเพื่อให้เช่า และส่วนที่เหลือนำฝากธนาคาร และแม้เธอจะกลายเป็นมหาเศรษฐี แต่ปัจจุบันก็ยังคงเป็นแม่ค้าขายปอเปี๊ยะกับน้องสาวอยู่เช่นเดิม