เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ดังรายงานว่า ชัญญา พานิชตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานขายและการตลาด (Sales & Marketing Assistant Managing Director) บริษัท ฮาตาริ อิเลคทริค จำกัด เล่าให้ฟังว่า ฮาตาริมีการไปจับมือกับสำนักออกแบบระดับโลกจากอิตาลีอย่าง Habits Design Studio เพื่อต้องการปรับดีไซน์พัดลมให้ทันสมัยเหมาะกับไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบันมากขึ้น
งานออกแบบยุคแรกๆ เราคิดแบบสินค้าอุตสาหกรรม หรือ Product Centric เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานและความทนทานอย่างที่หิ้วพัดลมด้านหลังก็เป็นเหล็กเส้นที่แข็งแรง แต่หิ้วแล้วไม่สบายนิ้วเราก็ปรับให้ผู้ใช้งานสามารถยกพัดลมไปไหนมาไหนได้โดยไม่เจ็บมือ เราหยิบเอา Pain Point ที่พบจากงานวิจัยไปคุยกับ Habits เพื่อร่วมกันการแก้ปัญหาผ่านงานออกแบบว่าจะทำอย่างไรให้พัดลมของฮาตาริทันสมัย มีฟังก์ชั่นการใช้งานและดีไซน์ที่ร่วมสมัยและลงตัว
สิ่งที่เราพบ คือ 1. ผู้บริโภคต้องการมากกว่าพัดลม เราจึงต้องยกระดับบางอย่าง 2. กรุงเทพมีประชากรหนาแน่นขึ้น ห้องเล็กลง เราต้องปรับขนาดของพัดลมให้เหมาะสม 3. คนต้องการอากาศที่สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สินค้าต้องตอบตรงนี้ เราอยู่กับลมมาตลอด เราเปลี่ยนมุมมองจากแค่ ลม เป็น อากาศ 4. สินค้าที่ล้ำมากๆ คนไม่อ่านคู่มือ เพราะฉะนั้นทำอย่างไรให้สินค้าเราคนเข้าใจง่ายที่สุด ใช้งานง่ายและทำอย่างไรให้ตอบโจทย์เรื่องอื่นๆ และสุดท้ายคนยังต้องการงานบริการหลังการขาย ไม่ได้ทิ้งลูกค้า ต้องการดูแลให้สินค้าใช้งานนานที่สุด
ชัญญา กล่าวว่า ทีมงานเรียกชื่อโครงการนี้ว่า The Wind of Change และหลังจากมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์การออกแบบสินค้ามาพักใหญ่คิดเป็นกว่า 50% ของสินค้าในพอร์ตที่มีประมาณ 70 SKU ก็ถึงเวลาแล้วที่จะหันกลับมามองเรื่องการทำRebranding
ตอนนี้ตลาดเปลี่ยนไป ผู้บริโภคเปลี่ยนเครื่องไฟฟ้าต้องเป็นมากกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป ต้องปรับตามพฤติกรรมเพื่อให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ขั้นตอนการเปลี่ยนจาก Product Centric เปลี่ยนเป็น Customer Centric ต้องเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคว่าต้องการอะไร ลงทุนกับการทำโปรดักต์ดีไซน์ให้ตอบโจทย์ซึ่งเราทำไปมากแล้วจึงทำแบรนดิ้งใหม่
ด้าน ทัศน์ลักษณ์ พานิชตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานการวิจัยและพัฒนา (Research & Development Assistant Managing Director) กล่าวเสริมว่า ในปีนี้ให้น้ำหนักกับการทำ Branding โดยชู Core Essence ของแบรนด์บนหลักการ Design Value 4 ส่วนประกอบด้วย “Form” รูปลักษณ์ภายนอก, “Details” รายละเอียดผลิตภัณฑ์, “CMF” (Colour, Material, and Finish) สีและวัสดุ, และ “Interaction” ความรู้สึกที่ผู้บริโภคมีต่อผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพในราคาเข้าถึงทุกครอบครัว โดยในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ฮาตาริจับมือกับ Habits Design Studio สตูดิโอด้านการออกแบบเชิงอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากมิลาน ที่เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและมีประสบการณ์ออกแบบให้กับแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมาแล้วมากมาย เพื่อพัฒนา “การออกแบบ” มุ่งเป็นสะพานเชื่อมระหว่างองค์ความรู้ดั้งเดิมของฮาตาริด้านการผลิตสินค้าที่เข้าใจคนไทยเข้ากับเทคโนโลยีและนวัตกรรมการออกแบบ พลิกโฉมแบรนด์ให้กลายเป็นมากกว่าแค่ผู้ผลิตแต่กลายเป็น “นักสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์” ที่เข้าใจคนรุ่นใหม่
เราอยากจะส่งมอบประสบการณ์ใหม่ ทำอย่างไรให้ชนะใจคอนซูมเมอร์ที่เป็นคนรุ่นใหม่ ทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่คิดถึงแบรนด์เรา เราพยายามสร้างและออกแบบสินค้าให้มีคุณค่าที่แตกต่างในแบรนด์เมื่อเทียบกับแบรนด์ทั่วไป
การ Rebranding ต้องเริ่มจากการเป็นสินค้าที่มีคุณภาพก่อนเรามั่นใจในสินค้าถึง Rebranding และ Reimaging ว่าภาพลักษณ์ในยุคสมัยนี้ต้องเป็นอย่างไร เราพยายามหาอะไรใหม่ๆ มาใส่เข้าไปในสินค้าเพื่อให้คนรุ่นใหม่เห็นว่าฮาตาริเป็นแบรนด์ที่มีความตั้งใจการทำสินค้าที่ดีมาตั้งแต่วันแรก ในราคาที่เข้าถึงได้ และสื่อสารเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม
ชัญญาได้ยกตัวอย่างสินค้าที่ออกมาเพื่อจับตลาดคนรุ่นใหม่อย่างพัดลม On The Go ซึ่งเป็นพัดลมขนาดพกพารุ่นแรกของฮาตาริโดยเล่าให้เบื้องหลังให้ฟังว่า พัดลม On The Go ฮาตาริ มาทีหลังแต่อยากให้คนจำได้ อยากให้คนคิดถึงฮาตาริตอนออกนอกบ้าน ส่วนเรื่องงานออกแบบก็มีการเอาความต้องการของผู้บริโภคมาใส่ในสินค้า คือมีแท่นวางพัดลมเป็นแม่เหล็กวางแล้วได้ระดับองศาที่พัดลมเข้าหาร่างกายที่พอดี
นอกจากนี้ก็ยังมีสินค้ารุ่นใหม่ คือ พัดลม Windbox ที่เปิดตัวมาเพื่อเจาะตลาดกลุ่มที่อยู่คอนโดมีเนียมแบบห้องสตูดิโอ
คอนโดสมัยใหม่ห้องพักมีขนาด 20 กว่าตารางเมตร ทำให้เราต้องมาคิดใหม่ว่าพัดลมสำหรับห้อง 20 ตารางเมตรทำอย่างไรให้กินพื้นที่น้อยที่สุด พัดลม Windbox เราได้แรงบันดาลจมาจากพัดลมสี่เหลี่ยม 20 ปีก่อน เอามาทำให้ทันสมัยปรับการออกแบบให้บางลงไม่ต้องมีฐานที่สำคัญเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งาน เนื่องจากห้องเล็ก gพราะฉะนั้นเสียงจะต้องเบาและมีลมที่กระจายไม่พุ่งไปโดนตัวตรงๆ Windbox น่าจะเริ่มวางขายได้ในปีหน้า
ในเดือนนี้ฮาตาริจะมีการเปิดตัวแคมเปญ Shaped By Wind #พัดไทยให้ไกลกว่าเดิม ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ฮาตารินำวิสัย ทัศน์ของแบรนด์ที่จะเป็นสายลมแห่งคำตอบ มุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาทุกอย่างให้ไกลยิ่งกว่าเดิม มาเล่าผ่านฮีโร่ของคนไทยในหลาก หลายสาขาอาชีพ เพื่อตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่ 1 ในใจคนไทยที่จะพัดพลังบวกและเป็นจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจอีกมากมาย
ตลอดระยะเวลา 34 ปีที่ผ่านมา เราสั่งสมประสบการณ์จนสามารถพูดได้ว่า เรื่องผลิตพัดลมฮาตาริมีความเชี่ยวชาญไม่เป็นรองใคร ปัจจุบันมีโรงงานผลิตขนาดใหญ่ที่ผลิตชิ้นส่วนถึง 90% ด้วยตัวเองทำให้สามารถผลิตพัดลมรูปแบบต่างๆ อาทิ พัดลมพกพา พัดลมเคลื่อนที่ พัดลมอุตสาหกรรม พัดลมระบายอากาศ พัดลมไอเย็น เครื่องฟอกอากาศ รวมไปถึงชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆ (Spare Parts) อีกทั้งยังมีการรับรองมาตรฐานการผลิตการรับประกันสินค้าที่เมื่อสินค้าเกิดเหตุขัดข้องเรามีบริการหลังการขายคอยดูแลเรื่องอะไหล่และชิ้นส่วนได้อย่างครบวงจรที่สุดทำให้ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีแบรนด์พัดลมจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ที่สามารถหาซื้อได้ง่ายและถูกกว่าท้องตลาด แต่ผู้บริโภคโดยส่วนใหญ่ยังให้ความไว้วางใจในคุณภาพของแบรนด์ฮาตาริเป็นอันดับ 1
ชัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากตลาดภายในประเทศที่เราเติบโตอย่างแข็งแกร่งเสมอมา เราเล็งเห็นศักยภาพของ แบรนด์ที่จะเติบโตในตลาดต่างประเทศ โดยปีนี้เราวางเป้าหมายขยายตลาดส่งออกมากขึ้นราว 10% โดยโฟกัสประเทศแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน เช่น กัมพูชา ลาว เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เป็นต้น เนื่องจากปัจจัยทางภูมิ อากาศ ภาวะโลกร้อนที่ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นกว่าทุกปี รวมถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ใกล้เคียงกันล้วนส่งผลเชิงบวกต่อการเติบโตทางธุรกิจ ทำให้ปีนี้เราคาดการณ์ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นราว 10% เมื่อเทียบกับปี 2566