กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น ได้ร่วมกันตรวจค้น กลุ่มบริษัทต้องสงสัย ไม่มีการประกอบกิจการจริง ตามที่ได้มีการแจ้งจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นการจดจัดตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อใช้ชื่อของบริษัทมาเปิดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) เพื่อใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินในรูปแบบของบริษัทจำกัด จำนวน 6 บริษัท ได้แก่
1. บริษัท เปรมสกุล โลจิสติกส์ จำกัด ที่อยู่ หมู่ที่ 4 ต.ชะแมบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
2. บริษัท นิสิต สำเร็จ จำกัด ที่อยู่ หมู่ 1 ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
3. บริษัท พรสินาพรรณ ทรานสปอร์ต จำกัด ที่อยู่ หมู่ที่ 4 ต.ชะแมบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
4. บริษัท สุรวดี ทรานสปอร์ต ที่อยู่ หมู่ 1 ต.หันตะเภา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
5. บริษัท อัญชัญ ชัยชนะ จำกัด ที่อยู่ หมู่ 5 ต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
6. บริษัท มิลินช้อปปิ้ง จำกัด ที่อยู่ หมู่ 10 ต.บ่อตาโล่ อ.วังน้อยจ.พระนครศรีอยุธยา
โดยได้ตรวจยึด ดังนี้
1. เอกสารบริษัทจำนวน 4 ชุด
2. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 8 รายการ
3. บัตรกดเงินสดอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 5 รายการ
4. คอมพิวเตอร์ โนตบุ๊ค ยี่ห้อ HP จำนวน 1 เครื่อง
5. โทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่อง
6. แท็บเล็ต ยี่ห้อ QOOMIจำนวน 1 เครื่อง
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากปัจจุบันมีการหลอกลงทุนโดยใช้บัญชีรับโอนเงินเป็นบัญชีนิติบุคคล เนื่องจากว่าการใช้บัญชีนิติบุคคลนั้น ไม่มีข้อจำกัดเรื่องวงเงิน และไม่ต้องยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้จับกุมกลุ่มบริษัทม้านิติบุคคลไปแล้วส่วนหนึ่ง ต่อมาจึงได้ทำการตรวจสอบบริษัทต้องสงสัยที่มีเงินหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก และน่าเชื่อว่าไม่มีการประกอบกิจการจริง ตามที่ได้มีการแจ้งจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นการจดจัดตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อใช้ชื่อของบริษัทมาเปิดบัญชีธนาคาร(บัญชีม้า) เพื่อใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินในรูปแบบของบริษัทจำกัด ต่อมาจึงได้ร่วมกันสืบสวนอย่างละเอียดจนทราบข้อมูลบริษัทดังกล่าว ตั้งอยู่และประกอบกิจการประเภทใด เมื่อไปตรวจค้นกลับพบว่า บางบริษัทเป็นที่ดินรกร้าง สอบถามบุคคลใกล้เคียง แจ้งว่าที่ดินดังกล่าวรกร้างได้หลายปีแล้ว บางบริษัทเป็นบ้านเรือนพักอาศัย ซึ่งไม่ได้มีการประกอบธุรกิจเลย สอบถามกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท รับว่าได้รับจดทะเบียนบริษัทจริง แต่ไม่ได้มีการประกอบธุรกิจแต่อย่างใด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวกรรมการฯ และของตรวจยึด นำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. ต่อไป
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน