จากกรณีเพจโชเชียลฮันเตอร์โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า ”เร็ว แรงส์ ทะลุกำแพง“ซึ่งเป็นเรื่องราวของเเม่ค้าขายเครป ถูกตำรวจ สภ.ปลายบาง จ.นนทบุรี ชนกำแพงบ้าน ขณะไล่จับคนร้าย ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้เจ้าของบ้านไปฟ้องเอาค่าเสียหายกับคนร้ายเอง ซึ่งหลังเกิดเหตุคนร้ายหนีไปได้ และไม่รู้จะไปเรียกร้องเอาค่าเสียหายกับใคร ขณะเดียวกันลูกค้าก็หดหาย ไม่กล้าเข้ามาซื้อเครป เพราะเห็นซากกำแพงพัง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 07.00 น. บริเวณเชิงสะพานคลองยายส่อน ต.ศาลากลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 29 มิ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่เกิดเหตุเป็นร้านขายเครปญี่ปุ่น อยู่ริมคลอง เลขที่ 104/2 หมู่ 2 ต.ศาลากลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พบ น.ส.นิพา พิมพ์เจริญ อายุ 34 ปี เจ้าของร้านเครป ผู้เสียหาย ได้พาผู้สื่อข่าวเดินไปดูกำแพงปูนที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งกำแพงบ้านอยู่ห่างจากถนนหลวงซอยผดุงสวัสดิ์ (5029) ประมาณ 3 เมตร ตั้งอยู่เชิงสะพาน ฝั่งขาออก มุ่งหน้าไป ศาลายา โดยกำแพงแตกเสียหายทั้งแผง มีความกว้าง 3 เมตร สูง 1.5 เมตร นอกจากนี้ยังพบกำแพงที่ติดกันมีรอยร้าว เสากำแพงแตก คาดว่าน่าจะต้องทำใหม่ถึง 2 ช่อง ผ่าน 4 วัน สภาพกำแพงยังไม่ได้รับการซ่อมแซมแต่อย่างใด
จากการสอบถาม น.ส.นิภา พิมพ์เจริญ อายุ 34 ปี เจ้าของร้านเครป กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนอยู่บนบ้าน ตอนแรกได้ยินเสียงรถหวอตำรวจก่อน นึกว่าเป็นรถพยาบาล สักพักได้ยินเสียงดังโครมและเสียงคนตะโกนโหวกเหวกโวยวายว่าหยุดๆ จึงเปิดหน้าต่างแล้วลงมาเห็นรถคนร้ายคาอยู่ที่กำแพงบ้าน ทำให้กำแพงบ้านพัง มีรถตำรวจจอดอยู่ข้างๆ จึงสอบถามคนขับรถจักรยานยนต์ที่เห็นเหตุการณ์ เขาบอกว่าไล่กันมา โดยขับรถย้อนศรมาจากวัดบัว เนื่องจากรถติด แล้วมาพุ่งชนรั้วบ้าน รถเขาก็เสียหลักมา ตนก็งงเพราะไม่ใช่ที่ที่จะต้องเสียหลัก เพราะเป็นทางที่รถไม่ต้องหักมาทางนี้ จึงสอบถามอีกทราบจนกระทั่งทราบว่ารถตำรวจชนท้ายรถคนร้าย ทำให้รถคนร้ายเสียหลักชนกำแพงบ้านของตน จากนั้นคนร้าย 2 คน ได้วิ่งเข้าหนีเข้าไปในซอย 1 คน แล้ววิ่งตรงไป 1 คน แล้วเห็นคนร้ายยิงปืนต่อสู้ 2 นัด หลังเกิดเหตุก็ตกใจ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ จึงไปลงบันทึกประจำวันที่โรงพัก
จากนั้นได้เดินเข้าไปถามร้อยเวร ว่าจะทำยังไง เขาบอกว่าต้องรอประกันของตำรวจ เพราะวันนั้นประกันรถของคนร้ายไม่ได้มา ตำรวจให้ตนไปจับคนร้าย เพราะต้องเป็นฝ่ายคนร้ายที่จะต้องมาชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งคนร้ายหนีไปแล้วตนจะต้องทำยังไง ตนเป็นชาวบ้าน จะไปรู้เรื่องเหรอว่าเขาจะจับกันยังไง หรือคนร้ายหนีไปทางไหน ไม่มีน้ำใจสักนิด เอาสังกะสีเก่าๆมาแปะให้ก่อนก็ไม่ได้ ตอนนี้กำเเพงเป็นรูน่าเกลียด อายคนผ่านไปผ่านมาเขาก็มอง แล้วที่บ้านขายเครป ลูกค้าก็ถามว่าเขาจะรับผิดชอบไหม จะให้บอกว่าอย่างไร ผ่านมา 4 วันยังไม่เห็นมีใครติดต่อมาเลย เมื่อวานก็โทรไปที่โรงพักเขาขอเบอร์ไว้ สุดท้ายก็เงียบ ไม่มีใครติดต่อมา พอตอนเช้าโทรไปอีก มีคนรับสาย แต่เขาบอกไม่รู้ ต้องโทรไปหาเจ้าของคดี หลังเกิดเหตุได้แค่ใบบันทึกประจำวันมา 1 ใบ เหมือนตนเอาผิดกับใครไม่ได้เลย ซึ่งบ้านก็อยู่เฉยๆ ไม่ได้ไปขวางทางใคร อยากให้เขาซ่อมให้ โชคดีที่ขณะเกิดเหตุร้านยังไม่เปิด เลยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นค่าดว่าค่าเสียหายประมาณ 10,000 บาท อยากให้แสดงความรับผิดชอบด้วย
นายวิชัย บัวงาม อายุ 52 ปี ลูกชายยายประไพ เปิดเผยว่า หลานสาวตนอายุ 6 ปี กำลังจะไปโรงเรียนตอนเช้ายืนอยู่ตรงโรงรถที่เขายิงกันตรงหลังบ้าน ตำรวจ 2 คนเขาจับคนร้ายแล้ว เอาปืนจอที่หัว แล้วมันสบัดหลุดไป ตำรวจก็ยิงปืนขู่ เรื่องแบบนี้มันใช่ไหม การกระทำแบบนี้มันไม่ใช่ แล้วถ้าเกิดแม่ผมช็อคตายขึ้นมาจะทำยังไง ใครจะรับผิดชอบ แค่กำแพงพังแค่นี้ตำรวจยังบอกไม่รับผิดชอบเลยมันใช่เหรอ หลายรอบแล้วตำรวจสืบปลายบางหลายเที่ยวแล้ว ที่สวนยังมีรอยเท้าของคนร้ายและตำรวจอยู่เลย หลังเกิดเหตุลูกเขยตนพบกุญแจมือตกอยู่ที่สวนติดอยู่กับตาข่าย ดูเอาตำรวจเขาทิ้งกุญแจมือเลย ทิ้งไม้กระบองและนาฬิกาอีกเรือนหนึ่งไม่รู้ของใคร แล้วพูดจาแบบว่า คุณอยากแจ้งความไปเลย มันใช่หรือตำรวจพูดอย่างนี้ได้อย่างไร วันนั้นมีทั้งเด็กและแม่ผมทึ่แก่แล้ว และตำรวจมีการยิงปืนข้างหลังมันใช่ไหม เขาบอกคนร้ายมีปืน ถ้าคนร้ายมีปืนทำไมคุณไม่ยิงตั้งแต่ปากซอย ตรงนั้นไม่มีคนมายิงอะไรตรงนี้ มันไม่ใช่
น.ส.ประไพ ยิ้มถิ่น อายุ 78 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 100 หมู่ 2 บ้านท้ายซอยที่คนร้ายและตำรวจวิ่งไล่กันเข้าไป กล่าวว่า วันเกิดเหตุที่บ้านอยู่กัน 4 คนคือน.ส.ประไพ อายุ 78 ปี นายต้า อายุ 31 ปี เป็นหลายเขย น.ส.กานต์ อายุ 27 ปี หลานสาว และด.ญ.หนูดี อายุ 6 ปี เป็นลูกสาวคุณกานต์ ขณะนั้นตนเองนั่งถอนหญ้าอยู่หน้าบ้าน โดยหนูดี ยื่นรออยู่ท้ายรถเพื่อจะไปโรงเรียน เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 คนวิ่งไล่คนร้าย ผ่านหน้าบ้านไปด้านหลังที่เป็นสวนของญาติ มีการกอดรัดต่อสู้กัน และยิงปืน 1 นัด แต่คนร้ายต่อสู้หลบหนีไปได้
น.ส.ประไพ กล่าวเพิ่มเติมว่า คนร้ายวิ่งเข้ามาในบ้าน ผ่านตนไปและหลานสาวอายุ 6 ขวบที่กำลังจะไปโรงเรียน ตนจึงอุ้มหลานไปที่ท้ายรถ แล้วเดินมาดูอีกครั้ง ซึ่งคนร้ายมันเรียกตนว่าแม่ ตำรวจจึงบอกว่าคนร้ายเป็นลูกตน ตนถึงบอกว่าไม่ใช่ ตนไม่รู้จัก สักพักตำรวจจับคนร้ายได้ แต่คนร้ายมันดิ้นหลุด ตำรวจยิงปืน 1 นัด ตอนยิงปืนตนก็ตกใจ หลานก็ตกใจแต่กอดตนอยู่ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย ทำไมไม่ขอโทษกันสักคำ มายิงปืนในบ้านคนอื่นแบบนี้
เบื้องต้นยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจลงมาพูดคุย แต่มีผู้ประสานงานโทรพูดคุยแล้วโดยแจ้งว่าจะรับผิดชอบให้ช่างมาทำรั้วใหม่ได้เลย แต่ทางผู้เสียหายยังไม่สามารถทำได้เนื่องจากไม่มีเงินสำรอง และกลัวว่าหากไปกู้เขามาทำเกรงว่าจะเสียเงินฟรีแล้วไม่มีใครมารับผิดชอบ อาจจะเป็นหนี้เพิ่ม จะรอจนกว่าจะมีคนออกมารับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายก่อน จึงจะซ่อมกำเเพงบ้านได้ และอยากให้หน่วยงานมาช่วยทำเสากั้นเพื่อกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัด นนทบุรี รายงาน