ปิดล้อมตรวจค้นจับกุมสาวรับจ้างส่งยาเสพติดออกนอกประเทศ

กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 ร่วมมือกับตำรวจปราบปรามยาเสพติดและตำรวจตระเวนชายแดน 324 ร่วมกันจับกุม 1. น.ส.ภัณฑิราฯ หรือเนาวรัตน์ฯ หรือโม อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 505/2564 ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และพยายามส่งออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” 2. นายเกาะฯ อายุ 42 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ของกลาง 1.อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ปืนแก๊ปยาว) ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก 2.อาวุธปืนยาวอัดลม แบบไทยประดิษฐ์ ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก สถานที่จับกุม บ้าน หมู่ 4 ต.แม่ขะนิง อ.เวียงสา จ.น่าน

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อปี พ.ศ.2564 เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบยาเสพติดบรรจุอยู่ภายในกล่อง เตรียมส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยตรวจพบที่ กรมศุลกากร ส่วนบริการศุลกากรไปรษณีย์ สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ เจ้าหน้าที่จึงได้นำยาเสพติดดังกล่าวเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จากการสืบสวนพบ น.ส.ภัณฑิราฯ หรือเนาวรัตน์ฯ หรือโม ฯ เป็นผู้นำกล่องบรรจุยาเสพติดดังกล่าวมาส่ง พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเรียบร้อยแล้วจึงร้องขอต่อศาลเพื่อออกหมายจับน.ส.ภัณฑิราฯ หรือเนาวรัตน์ฯ หรือโมฯ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 505/2564 ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2564

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และพยายามส่งออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม ได้สืบสวนจนทราบว่า น.ส.ภัณฑิราฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่กับสามีในพื้นที่ อ.เวียงสา จ.น่าน จึงได้ร้องขอต่อศาลเพื่อออกหมายค้น แต่เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่บนภูเขาสูง ห่างไกลตัวเมืองและเป็นถิ่นที่อยู่ของกลุ่มชาติพันธุ์ซึ่งมักมีพฤติกรรมรวมตัวกันกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่และบางครั้งถึงขั้นทำร้ายร่างกายและทำลายทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ตามที่เคยเป็นข่าวอย่างแพร่หลาย เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานความร่วมมือกับตำรวจปราบปรามยาเสพติดและตำรวจตระเวนชายแดน 324 ซึ่งมีความชำนาญในพื้นเข้าร่วมในการปิดล้อมตรวจค้น

ผลการตรวจค้นพบ น.ส.ภัณฑิราฯ พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวจริง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิ์ให้ทราบ จากนั้นได้ควบคุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนจำนวน 2 กระบอก ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว สอบถามนายเกาะฯ ซึ่งแสดงตัวเป็นเจ้าบ้านดังกล่าว รับว่าอาวุธปืนทั้งสองกระบอกเป็นของตัวเองจริง จึงแจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิ์ให้ทราบ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวียงสา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน