วันที่ 22 ก.ค. 67 ผู้สื่อข่าวายงานว่า หลังจากฝนตกลงมาในพื้นที่จังหวัดตราด 2 วัน มีปริมาณน้ำสะสมจำนวนมาก เฉพาะอำเภอเมืองตราด มีปริมาณนำสะสม 2 วันกว่า 300 มม.ทำให้อ่างเก็บน้ำเขาระกำตอนล่าง(สระสีเสียด) ต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด มีระดับสูงขึ้นถึงขอบอ่างเก็บน้ำและต้องระบายออกเต็มอัตรา เพื่อป้องกันความเสียหายของอ่างที่อาจจะแตกได้
ซึ่งในเวลา 11.35 น.ปริมาณน้ำได้ล้นอ่างและไหลข้ามถนนในหลายจุด ทำให้ชลประทานตราดต้องเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวเพื่อประชุมและตัดสินใจระบายน้ำออกมา ในช่วงบ่ายวันที่ 21 กรกฎาคม 2567 ส่งผลให้เพียง 3-4 ชม.น้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนใน 3 ตำบล คือ ต.บางพระ ในเขตเทศบาลเมืองตราด, ต.หนองเสม็ด และ ต.วังกระแจะ
ทำให้บ้านเรือนกว่า 1,000 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมในระดับ 1.00-1.20 เมตร โดยเฉพาะโรงเรียนกิตติวิทยา และชุมชนหมู่บ้านสืบแสวงทรัพย์ ชุมชนวัดโบสถ์ ชุมชนกิจสวัสดิ์ รวมทั้งชุมชนรักษ์คลองบางพระที่อยู่ใกล้คลองบางพระ และปัจจุบันยังท่วมขังอยู่
ต่อมา นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการ จ.ตราด จึงออกประกาศพื้นที่ภัยพิบัติสาธารณภัย และภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชน เพื่อให้องค์กรปกครองท้องถิ่น และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราดนำงบประมาณมาใช้ช่วยเหลือประชาชน
ประกาศให้พื้นที่ชุมชนบ้านล่าง ชุมชนกิจสวัสดิ์ ชุมชนโภคไพร ชุมชนวัดโบสถ์ ชุมชนรักคลองบางพระ และชุมชนท่าเรือจ้าง ในเขตเทศบาลเมืองตราด ,หมู่ที่1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 7
ในตำบลหนองเสม็ด และหมู่ที่1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่3 หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 6 หมู่ที่ 7หมู่ที่ 8 หมู่ที่ หมู่ที่ 10 หมู่ที่ 11 และหมู่ที่ 12 ในตำบลวังกระแจะ โดยให้เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2567
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หลังจากเดินทางไปตรวจสถานการณ์พื้นที่น้ำท่วมเมื่อบ่ายวานนี้และเข้าไปในพื้นที่โรงเรียนกิตติวิทยาที่เป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด และพื้นที่ชุมชนกิจสวัสดิ์ ซึ่งได้เห็นประชาชนเดือนร้อนมแชะมีองค์กรปกครองท้องถิ่นเข้ามาช่วยเหลือ ดังนั้นจึงต้องประกาศพื้นที่ภัยภิบัติเพื่อให้ท้อลถิ่นและจังหวัดนำงบประมาณมาช่วยเหลือได้ทันที ส่วนเรื่องการระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำนั้น เป็นอำนาจของทางชลประทานตราด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดที่เป็นข้าราชการสังกัดราชการส่วนภูมิภาคไม่สามารถออกคำสั่งโดยตรงไปยังหัวหน้าราชการที่สังกัดส่วนราชการส่วนกลางได้ ทำได้แต่เพียงแนะนำเท่านั้น ที่ผ่านมาก็ได้แจ้งเตือนไว้แล้วเมื่อครั้งที่น้ำท่วมครั้งแรก
ด้าน นายกิตติพงษ์ อยู่ละออ นายกเทศบาลตำบลหนองเสม็ด เปิดเผยว่า พื้นที่ตำบลหนองเสม็ด โดยเฉพาะหมู่ 4 ที่มีชาวบ้านในซอนสืบแสวงทรัพย์ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เนื่องจากอยู่ติดกับโครงการชลประทานตราดใกล้คลองส่งน้ำทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนมีระดับความสูงถึง 1.00-1.20 เมตร จากการสรุปของทางเทศบาลตำบลหนองเสม็ดพบว่า มีครัวเรือนทีทได้รับผลกระทบจำนวนกว่า 500 ครัวเรือนจากจำนวน 4,พันครัวเรือน ซึ่งนับมาก และการที่ทางจังหวัดตราดประกาศให้พื้นที่ 3 ตำบลเป็นพื้นที่ภัยพิบัติทำให้ท้องถิ่นสามารถนำงบประมาณฉุกเฉินมาใช้ช่วยเหลือประชาชนได้
ทั้งนี้ หากไม่มีฝนตกลงมาใน 2 วันนี้สถานการณ์จะคลี่คลายและกลับสู่ปกติได้ใน 3 วัน ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าน้ำมีมาก และเมื่อบ่ายวานนี้น้ำจากอ่างล้นออกมาและข้ามถนนไปหลายจุดทำให้ชลประทานตราดต้องปล่อยน้ำออกมาจนเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ดังกล่าว ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมประชาชนในพื้นที่หมู่ 4 และใกล้เคียงยังมีน้ำท่วมอยู่ ซึ่งทางทต.หนองเสม็ดได้นำโดรนบินขึ้นสำรวจเพื่อนำมาวางแผนช่วยเหลือและแก้ปัญหาต่อไป
นอกจากนี้ บ้านพักของ นายวิเชียร ทรัพย์เจริญ นายก อบจ.ตราด ที่อยู่หมู่2 บ้านหนองบัว ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด ตรงข้ามกับสำนักงานเขตการศึกษาประถมศึกษาตราด และโรงเรียนอนุบาลหนองบัวที่เกิดน้ำท่วมหนักเมื่อวานนี้นั้นวันนี้ยังท่วมขังอยู่ บ้านของนายกอบจ.ตราดก็ถูกน้ำท่วมไม่ต่างจากบ้านของประชาชนในพื้นที่ เช่นกัน
นายวิเชียร กล่าวว่า ชั้นล่างของบ้านที่เป็นที่เก็บของสำคัญ และเสื้อผ้าของสโมสรตราดเอฟซีตั้งปี 2555 จนปัจจุบันถูกน้ำท่วมทั้งหมด และสิ่งสำคัญหลายอย่สงก็ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายมากเช่นกัน ซึ่งมีภาพที่บ้านคนในครอบครัวถ่ายออกมาลงในอินสตาแกรม