ตามที่ กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ทำการสอบสวนคดีพิเศษ ที่ 32/2567 กรณี ความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 อันเนื่องมาจากอดีตผู้บริหารบริษัท STARK มีการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและยักยอก รวมมูลค่าความเสียหาย เป็นเงินจำนวนกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ออกหมายเรียกให้ผู้ต้องหาเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในระหว่างวันที่ 20 – 22 สิงหาคม 2567 เวลา 10.00 น. จำนวน 5 ราย นั้น
พันตำรวจโท จักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผู้อำนวยการกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 ได้มีนางสาวสิริวรรณ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหามีพฤติการณ์รับโอนเงินจากนายศรัทธา จำนวน 1 ครั้ง เป็นเงิน 50,000,000 บาท และในวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ได้มีผู้ต้องหาอีก 2 ราย ได้แก่ นางสาวกุลธิดา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหามีพฤติการณ์รับโอนเงินจากนายศรัทธา จำนวน 3 ครั้ง รวมเป็นเงิน 6,000,000 บาท และนางสาวพรนภา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหามีพฤติการณ์รับโอนเงินจากนายศรัทธา จำนวน 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 6,350,000 บาท มาพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษตามหมายเรียก
พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงได้แจ้งข้อเท็จจริงและข้อกล่าวหาแก่ทั้ง 3 ราย แล้วว่า ร่วมกันกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5 มาตรา 9 มาตรา 60 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 ซึ่งผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหาแล้วและให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 ราย ได้ขอเลื่อนและจะเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในวันที่ 29 สิงหาคม 2567 เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน