วันที่ 20 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพ่อค้าขายทุเรียนในเขตเทศบาลเมืองบ้านดุง จ.อุดรธานี ว่าเจอเรื่องแปลก ๆ เกี่ยวกับพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่งที่อยากกินทุเรียน เจ้าของใจดีถวายให้ แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป จึงสงสัยว่าเป็นพระปลอมหรือไม่ เหตุเกิดริมถนนแถวทุ่งศรีเมือง อ.บ้านดุง
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นางสาวพรทักษิณ เย็นวัฒนา อายุ 29 ปี ภรรยาเสี่ยโบ้ หรือนายจิระพล เย็นวัฒนา อายุ 39 ปี เจ้าของแผงขายทุเรียน เสี่ยโบ้ทุเรียนซิ่ง ซึ่งขายทุเรียนอยู่ที่หน้าบริเวณสวนรักษ์ อยู่ด้วยกัน ทั้งสองสามีภรรยา เล่าให้ฟังว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุ เวลา สี่โมงเช้า (10.45น.) ตนเจอพระภิกษุรูปหนึ่งเดินเท้า มาจากทางศาลปู่ศรีสุทโธ สวมหมวกไหมพรม มีบาตรพระอุ้มมาด้วย ผ่านแผงขายทุเรียนของตน แล้วหันมาหาตนบอกว่า โยมอาตมาเงินบ่พอ อาตมาอยากกินทุเรียน
ปกติตนก็ทำบุญอยู่บ่อยๆ ครั้งนี้ ตนเห็นพระอยากกินทุเรียน จึงบอกว่าไม่เป็นไรครับพระอาจารย์ จึงแล้วถวายทุเรียนที่ปลอกแล้วแพ็กใส่ถุงราคา 390 บาท ถวายให้ โดยออกไปนั่งคุกเข่าที่หน้าร้านเพื่อรับพร. ตอนที่นั่งคุกเข่าถวายทุเรียน และพระก็ให้พร ภรรยาตนได้ยกมือถือมาถ่าย เพื่อนำไปลงในเฟซบุ๊ก เวลาเราทำความดีจะได้ลงเอาไว้ จู่ ๆ พระรูปนี้หยุดสวด หันมาต่อว่าภรรยาตนว่า ใครให้ถ่ายรูป ถ่ายรูปได้รับอนุญาตไหม พร้อมกับแสดงท่าทีไม่พอใจเดินออกไปที่ บขส.บ้านดุง
ผมเริ่มเอะใจแล้ว ทำไมต้องห้ามถ่ายรูป ผมืำความดีผมก็อยากถ่ายรูปเพื่อโปรโมทร้าน และปกติเวลา สี่โมงกว่า พระ(จริง)จะต้องอยู่ตามวัด แต่นี่ยังเดินอยู่ตามถนน แถมบาตรยังสะพายที่ไหล่ มันใช่เวลาบิณฑบาตรมั้ย จึงตอกกลับพระไปว่า ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตนะครับ ซึ่งหลังจากได้ทุเรียนแล้ว พระรีบเดินไปทางตลาดทันที ตนจึงได้ร้องตะโกนตามหลังบอกไปว่า หลวงพ่อถ้าเป็นพระปลอมผมจับสึกมาหลายรูปแล้ว ก่อนที่พระรูปนั้นเดินหนีไป โดยไม่พูดอะไรสักคำ
น.ส.พรทักษิณ กล่าวว่า หลังจากเกิดเรื่องราวนี้ ตนจึงเล่าให้ญาติของหนูเปิดร้านอาหารตามสั่งในเขต อ.บ้านดุงฟัง ญาติจึงดูกล้องวงจรปิด ว่า ใช่พระรูปนี้รูปเดียวกันหรือเปล่า วันนี้ซื้อเนื้อมาให้ทางร้านทำ กับข้าวให้ ฉัน พอฉันเสร็จ ก็เดินออกจากร้าน คงจะไปร้านทุเรียน… เพราะเป็นเวลาไล่เลี่ยกัน
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.อุดรธานี รายงาน