เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย กำลังช่วยกันจับลูกงูซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นงูอะไรเกือบ 100 ตัว ใส่ถังดำ ขนาด 20 ลิตร ซึ่งหลังจากแม่งูได้เลื้อยเข้ามาที่ร้านข้าวต้มแห่งหนึ่ง ริมถนนแบริ่ง ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ แล้วถูกเจ้าของร้านใช้ที่คีบจับคีบเพื่อจะไปปล่อย แต่จังหวะที่คีบตัวงูกำลังจะใส่กระสอบนั้น ลูกงู ได้ทะลักออกจากท้องแม่งูเกือบร้อยตัวหล่นในกระสอบจำนวนมาก แต่กลัวงูหายใจไม่ออกเลยเอาถังมาใส่ ก่อนที่งูจะเลื้อยออกมาจากถัง เลยต้องแจ้งกู้ภัยที่อยู่ใกล้เคียงมาช่วยกันจับใส่ถัง
ซึ่งก็ยังไม่เจอตัวแม่งูในถัง ซึ่งคาดว่าหลบหนีการจับกุมไปเป็นที่เรียบร้อยโดยที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องค้นทุกซอกทุกมุม เพื่อไม่ให้ ลูกงู หลงเหลืออยู่ ซึ่งหลังจากนี้จะนำลูกงูทั้งหมดส่งมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป
ทางด้านเจ้าของร้านข้าวต้ม เล่าว่า งูเลื้อยมาจากข้างบ้าน ตนก็ตกใจแต่ก็วิ่งไปจับงูเพื่อจะเอามาใส่กระสอบข้าวเอาไว้ตัวเดียว ตัวแม่ พอจับได้แล้วตนก็จะยกตัวงูขึ้นเพื่อที่จะเอาใส่กระสอบ แต่พอยกลูกงูก็ไหลออกมาจากท้องงูตัวนั้น ตนก็ตกใจมาก ตอนแรกก็ออกมาตัวเดียว ตนก็เลยรีบเอางูยัดใส่กระสอบ พอใส่เสร็จ ลูกงูก็ไหลออกมาเพิ่มอีกเรื่อย ๆ จนเต็มกระสอบ ตนก็กลัวว่างูจะหายใจไม่ออก ก็เลยหาถังมาใส่เขาเอาไว้ ตนก็ไม่รู้ว่าเป็นงูอะไร พอเสร็จแล้วตนก็เอาวางไว้ก่อนเพราะลูกค้าเข้าเยอะ ตนก็ไม่คิดว่างูมันจะเลื้อยออกมา ตอนนี้งูตัวที่เป็นแม่ก็เลื้อยหายไปแล้ว ที่ตนกล้าจับงู เพราะคิดว่าลูกค้าก็นั่งกันอยู่ในร้าน กลัวลูกค้าจะตกใจ ก็เลยจับงูก่อน ใช้ไม้ง่ามที่ร้านเอาไว้คีบของ มาจับ
นายเดชา บุญดี 45 ปี (เสื้อน้ำเงิน) เล่าว่า ตนได้รับแจ้ง ให้มาช่วยจับงู งูเข้าร้าน ตนเลยมาดู พอมาถึงตนก็หาข้อมูลว่ามันเป็นงูอะไร เพราะงูมีจำนวนเยอะ เขาจับใส่ถังเอาไว้แล้ว แต่ตัวแม่มันเลื้อยหนีไป ตนก็ยังไม่เห็น ตอนนี้ก็ยังคิดอยู่ว่าจะเอางูพวกนี้ไปปล่อยที่ไหน เพราะยังเป็นแค่ลูกงู
นายกลมศักดิ์ ชาโรจน์ เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยด่านสำโรง (เสื้อแดง ใส่แว่น) กล่าวว่า งูชนิดนี้น่าจะเป็นงูหัวกะโหลก เป็นงูน้ำชนิดหนึ่ง เป็นงูพิษอ่อน พิษจะไม่ส่งผลต่อร่างกายมนุษย์ หรือสัตว์ที่ถูกงูชนิดนี้กัดก็จะไม่เป็นอะไร ปกติงูชนิดนี้จะอยู่ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ตามลำคลอง และงูชนิดนี้ก็จะออกลูกเป็นตัว ตอนคลอดก็จะไหลออกมาแบบนี้